วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

" วัดแสงแก้วโพธิญาณ " แหล่งท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม


                        วัดแสงแก้วโพธิญาณ ตั้งอยู่ที่ 191 ม.11 บ้านใหม่แสงแก้ว ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงใครๆที่มาเที่ยวเชียงรายจะพลาดโอกาสไปวัดนี้ไม่ได้เพราะเป็นวัด ที่มีความสวยงามมากๆไม่ว่าจะเป็นความสวยงามของตัววัด หรือความงามจากธรรมชาติรอบๆตัววัดบรรยากาศเงียบสบมีเพลงบรรเลงเบาๆสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพก็มีสิ่งสวยงามต่างๆมากมายให้ได้ไปสัมผัส ความรู้สึกแรกหากใครที่ได้มายังวัดแสงแก้วโพธิญาณแห่งนี้ จะต้องสังเกตเห็น รูปหล่อเหมือนครูบาเจ้าศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ครูบาอภิชัย ขาวปี และครูบาชัยวงศา พัฒนา ที่เด่นและสูงใหญ่ตระหง่าเปล่งประกายอยู่ด้านบนสุดของวัด


 ประวัติความเป็นมาของวัดแสงแก้วโพธิญาณ
                          วัดขึ้นในหมู่บ้านเพื่อเป็นสถานที่ทำบุญยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน และพุทธศาสนิกชนทั่วไป จึงได้กราบอาราธนาพระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต มาจากวัดพระธาตุดงสีมา ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย มาสร้างวัดขึ้นในหมู่บ้าน ท่านพระครูบาตอบตกลงและเริ่มตามหาที่ดินที่เคยนิมิตเห็น เมื่อพบที่แล้วกรวดน้ำอธิฐานขอสร้างบารมีในที่แห่งนี้ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็มีเจ้าภาพนำที่ดินแห่งนั้นมาถวาย จำนวน 19 ไร่ จึงเริ่มวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2549 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 เหนือ (แปดเป็ง) วันวิสาขบูชา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านครูบาจึงได้เริ่มก่อสร้างศาสนสถานและศาสนวัตถุต่างๆ โดยใช้ศิลปะแบบผสมผสานล้านนา พม่า ไต (ไทลื้อ) ซึ่งใช้ระยะเวลาอย่างรวดเร็วในการก่อสร้าง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2554 และผูกพันธสีมา ฝังลูกนิมิตในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2556 (ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6 เหนือ) และพัฒนาวัดแสงแก้วโพธิญาณต่อเนื่องถึงปัจจุบัน




ที่มาของชื่อวัดแสงแก้วโพธิญาณ
                       แสงแก้วโพธิญาณแปลว่า ดอกบัวที่ผุดโผล่ขึ้นพ้นน้ำแล้วมีแสงสว่างเรืองรองเหมือนแสงแก้ว โดยพระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ท่านเกิดนิมิตว่า "ฝนตกหนักมาก มองอะไรก็ไม่เห็น ครูบาก็เดินหลงไปหลงมาอยู่บนภูเขาสักพักก็ได้เห็นป่าทั้งป่าบนภูเขา มีดอกบัวบานเต็มไปหมด มีแสงสว่างไสวสวยงาม ครูบาจึงคิดชื่อได้จากเหตุนิมิตที่เห็นแสงเรืองรองเหมือนแสงแก้วกลายเป็นดอกบัวอีกนัยหนึ่งคือ "โพธิญาณ" หมายถึง หยั่งรู้ เหมือนบัวที่ผุดโผล่ขึ้นมาจากพ้นน้ำแล้วเปล่งแสงคล้ายแสงแก้ว จึงได้ตั้งชื่อว่า "วัดแสงแก้วโพธิญาณ"



          รูปหล่อโลหะครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในโลก  ด้านซ้ายของเราคือครูบาขาวปี๋ ส่วนด้านขวาคือครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ด้วยเหตุว่าชาวล้านนาเชื่อว่าครูบาศรีวิชัยคือพระโพธิสัตว์ที่ลงมาจุติในล้านนา ที่ครูบาอริยชาติ สร้างรูปครูบาศรีวิชัยไว้ชั้นบนสุดเพื่อเป็นความหมายว่า "เหนือพระโพธิญาณ มีพระโพธิสัตว์" พระวิหารที่สร้างไว้ชั้นกลางหรือชั้นสวรรค์-พรหม นั้นจะมีสะพานเชื่อมขึ้นมาถึงชั้นนี้ เป็นนัยว่าการข้ามเข้าสู่ชั้นนิพพาน


ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา
                  ทางด้านขวาของรูปเหมือนของ ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา มีระเบียงคด ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่งดงาม 2 องค์ 2 ปาง 2 เนื้อ ผินพระพักตร์เข้าหากัน ส่วนตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานพระบรมรูปบูรพกษัตริย์ องค์สำคัญๆ ได้แก่ สมเด็จพระนเรศวร สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนางจามเทวี พระนางสุพรรณกัลยา และอีกหลายพระองค์




ครูบาขาวปี๋ 
ส่วนทางด้านซ้ายของรูปเหมือน ครูบาขาวปี๋ มีระเบียงคด ภายในเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อต่างๆ


จำลองเรื่องโลกและจักรวาล

          ทางเข้างข้างหน้าจะมียักษ์ 2 ตนตัวเล็กสีเขียวและสีแดงเฝ้าอยู่ถ้าเดินเข้าไปอีกนิดจะเห็น 12 นักษัตร ยืนรอบๆโดยที่ต้องกลางจะเป็น เจดีย์สีขาวมีรูปปั้นต่างๆอยู่ในนั้น
พระพิฆเนศ

พระอวโลกิเตศวรปรางพันมือ
ลานสำหรับนั่งพักผ่อน


ผู้สร้างวัดแสงแก้วโพธิญาณ
ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต

             หลังจากที่เที่ยวชมวัดแสงแก้วโพธิญาณแห่งท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของจังหวังเชียงราย อิ่มอก อิ่มใจกับบุญที่ได้ทำในวัดหรือความสวยงานของวัด ขากลับอย่าลืมแวะ สวนจริณ รีสอร์ท ชิม พายมะพร้อมที่ใครได้กินก็บอกต่อๆกันคำเดียว่าอร่อยมาก จะพลาดไม่ได้เด็ดขาดและยังมีพายต่างให้เลือกชิมอีกมากมาย





อ้างอิงข้อมูล : วันแสงแก้วโพธิญาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น